การมุ่งเน้นที่ Big Data และพฤติกรรมของเมืองของคุณที่มีต่อการจัดการข้อมูลนั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการเป็น Smart City อย่างแท้จริง

เมืองที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมแง่มุมต่างๆ ของการขนส่งอัจฉริยะ ความปลอดภัย การจัดการพลังงาน การปล่อย CO2 และความยั่งยืนขึ้นอยู่กับการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ Big Data เพื่อให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจและเจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้ ในการตอบสนอง บางเมืองได้ใช้แนวทาง Open Data เพื่อช่วยในการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ ซึ่งได้วางไข่ตลาดเกิดใหม่สำหรับการพัฒนาและการขาย “Apps” เพื่อให้ Open Data นี้มีชีวิตชีวาและให้คุณค่าแก่ ผู้ใช้

มีแนวทางเชิงรุกในการระบุและจัดการ DNA ดิจิทัลของเมือง

โครงสร้างหลักในการใช้ข้อมูลเมืองอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ท้ายที่สุดแล้วจะอยู่ในความสามารถของเมืองในการนำข้อมูลและเอกสารที่มีอยู่เดิมมาใช้ใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น ซึ่งเป็น DNA ดิจิทัลที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องของทุกเมือง ข้อมูลสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นได้รับการบันทึกโดยเมืองในรูปแบบและกระบวนการต่างๆ แผนกอาคาร แผนกวิศวกรรม กรมที่ดิน แผนกวางแผน กรมสรรพากร บริการไปรษณีย์ ทั้งหมดรวบรวมและจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว จะสร้างภาพเสมือนของเมืองจริงของคุณ ความถูกต้อง การรับรองความถูกต้อง และการรวมข้อมูลของเมืองนี้เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าสู่เส้นทางสู่การเป็น Smart City

เส้นทางสู่การเปิดใช้งาน DNA ดิจิทัลในเมืองของคุณมาจากการใช้ Building Information Modeling (BIM) และข้อมูลที่รวบรวมโดย Smart Buildings BIM และ Smart Buildings มอบ DNA ดิจิทัลที่เมื่อใส่ในบริบทของย่านใกล้เคียง อำเภอ และเมือง จะให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเมืองและรับรองความถูกต้อง บริษัทด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง (AEC) ที่มองข้ามโครงการก่อสร้างแต่ละโครงการ และเริ่มรับตำแหน่งเพื่อจับมูลค่า (และรายได้ทางเลือก) ที่ระดับธุรกรรมข้อมูลในสภาพแวดล้อมของ Smart City จะจับส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้นและเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการเติบโต กว่าการแข่งขันของพวกเขา การประเมินค่าใหม่ของ DNA ดิจิทัลนี้ทำให้คนแคระเข้าใจถึงคุณค่าที่มอบให้กับข้อมูลสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น

คิดว่าเมืองของคุณเป็นเครือข่าย โดยแต่ละอาคารทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ แต่ละอาคารมีข้อมูล เช่น BIM สำหรับการออกแบบและการก่อสร้าง และข้อมูลอาคารอัจฉริยะในรูปแบบของการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบอัตโนมัติในอาคาร) เมื่อข้อมูลสิ่งปลูกสร้างส่วนบุคคลนี้เชื่อมต่อกับเครือข่ายของเมือง โดยอาจผ่านนโยบาย Open Data สิ่งที่น่าสนใจก็เริ่มเกิดขึ้น ข้อมูล AEC ที่จับได้ซึ่งเมืองหนึ่งมีอยู่แล้วกลายเป็น DNA ดิจิทัลของเมืองอัจฉริยะ